ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (16 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.36% แตะที่ 104.1870
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 129.12 เยน จากระดับ 129.30 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0016 ฟรังก์ จากระดับ 1.0026 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2841 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2932 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0441 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0407 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2320 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2242 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6977 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6923 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ร่วงลงสู่ระดับติดลบในเดือนพ.ค. หลังจากที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ เฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตร่วงลงแตะ -11.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 24.6 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.4% ในปี 2565 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.6% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2566 จะขยายตัวเพียง 1.6% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ 2.2%
ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังจากนายปาโบล เอร์นันเดซ เดอ โคส ผู้ว่าการธนาคารกลางสเปน เปิดเผยว่า ECB มีแนวโน้มตัดสินใจยุติการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนก.ค. โดยจะมีการหารือในการประชุมนัดถัดไป และคาดว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยเร็วหลังการประชุม
ทั้งนี้ นายเดอ โคส เป็นหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายของ ECB ที่เรียกร้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), การเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.