ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้
ณ เวลา 23.32 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.44% สู่ระดับ 127.65 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.75% สู่ระดับ 135.18 เยน และดีดตัว 1.18% สู่ระดับ 1.059 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 1.0% สู่ระดับ 102.77 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.
ดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 7.5% นับตั้งแต่ต้นปี และพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขานรับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นักวิเคราะห์ระบุว่านักลงทุนเทขายดอลลาร์ในวันนี้ เพื่อลดการถือครองสกุลเงินสหรัฐ และกระจายการถือครองสกุลเงินอื่น เช่น เยนและฟรังก์สวิส
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุด หากมีความจำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
ขณะเดียวกัน เฟดเตรียมปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน