ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวขึ้นในวันนี้ หลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้
ณ เวลา 22.54 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ขยับขึ้น 0.03% สู่ระดับ 127.84 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.22% สู่ระดับ 134.99 เยน และร่วงลง 0.23% สู่ระดับ 1.056 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.3% สู่ระดับ 103.03
ถึงแม้ดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ แต่ก็มีแนวโน้มดิ่งลง 1.6% ในสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์ระบุว่านักลงทุนเทขายดอลลาร์เพื่อลดการถือครองสกุลเงินสหรัฐ และกระจายการถือครองสกุลเงินอื่น เช่น เยนและฟรังก์สวิส
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค. หลังจากที่เฟดเพิ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนพ.ค. เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2543 และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 20 ปี
ขณะเดียวกัน เฟดเตรียมปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน