ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของยูโร ขานรับคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ค.และก.ย.
ณ เวลา 00.23 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 1.02% สู่ระดับ 126.56 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.65% สู่ระดับ 135.80 เยน และดีดตัว 0.39% สู่ระดับ 1.073 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.3% สู่ระดับ 101.77
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.8 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 56.0 ในเดือนเม.ย.
ดัชนี PMI ถูกกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค รวมทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทานจากมาตรการล็อกดาวน์ในจีน และสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 16.6% สู่ระดับ 591,000 ยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 750,000 ยูนิต จากระดับ 709,000 ยูนิตในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 26.9% ในเดือนเม.ย.
ยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้น และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
นายฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส กล่าวว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ค.และก.ย.
ด้านนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่า ECB มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะมีค่าเป็นบวกในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3 จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.50%
ตลาดจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 3-4 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ เพื่อหาทิศทางอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ของเฟด