สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กับนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ทำเนียบขาวในวันนี้ (31 พ.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงสุดในรอบหลายสิบปี
ณ เวลา 19.02 น. ตามเวลาไทย ยูโรอ่อนค่า 0.64% เทียบดอลลาร์ แตะที่ 1.0712 ดอลลาร์ ส่วนเงินเยนแข็งค่า 0.53% เทียบดอลลาร์ สู่ระดับ 128.23 เยน
เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ปธน.ไบเดนจะหารือกับนายพาวเวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่การทำให้อัตราเงินเฟ้อเปลี่ยนผ่านไปสู่ระดับที่มีเสถียรภาพ และการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์ของประชาชนวัยทำงาน
ที่ผ่านมานั้น เฟดภายใต้การนำของนายพาวเวลได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อด้วยการยุติมาตรการฉุกเฉินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงขึ้นและรวดเร็วมากขึ้น หากอัตราเงินเฟ้อยังไม่มีแนวโน้มชะลอตัวลง พร้อมกับแนะนำให้เฟดเตรียมพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุก ๆ ครั้งนับตั้งแต่การประชุมเดือนมิ.ย. จนกว่าเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้
"หากเงินเฟ้อยังไม่ชะลอตัวลง อัตราดอกเบี้ยก็ควรถูกปรับให้แรงขึ้นและรวดเร็วขึ้น เราคงจะไม่นั่งรอนานถึง 6 เดือนจึงจะดำเนินการดังกล่าว ในมุมมองของผมแล้ว ผมแนะนำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทุกครั้งนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้ จนกว่าเราจะเห็นเงินเฟ้อชะลอตัวลง และหากเงินเฟ้อไม่ปรับตัวลดลง ผมก็ไม่แนะนำให้เฟดหยุดปรับขึ้นดอกเบี้ย" นายวอลเลอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมซึ่งจัดโดยสถาบันเสถียรภาพด้านการเงินและนโยบายการเงินที่เยอรมนีเมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.)