ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (2 มิ.ย.) เนื่องจากภาวะตลาดที่ดีขึ้นทำให้นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยง โดยขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และเข้าซื้อสกุลเงินที่มีความเสี่ยง อาทิ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และปอนด์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.66% สู่ระดับ 101.8240
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 129.86 เยน จากระดับ 130.16 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9581 ฟรังก์ จากระดับ 0.9626 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2577 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2632 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0743 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0659 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2568 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2493 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7188 ดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์ระบุว่า รายงานข่าวที่ว่า ซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่ขาดหายไปจากรัสเซีย และการที่จีนได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ได้ทำให้นักลงทุนเพิ่มการถือครองสกุลเงินที่มีความเสี่ยง ได้แก่ ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์
ตลาดรอการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ (3 มิ.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานอาจเพิ่มขึ้น 325,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และอัตราการว่างงานอาจปรับตัวลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2512
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ