ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (8 มิ.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นทะลุระดับ 3% ขณะที่ยูโรแข็งค่าขานรับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% สู่ระดับ 102.5430
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0718 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0710 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2540 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2588 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7195 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7234 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.16 เยน จากระดับ 132.56 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9778 ฟรังก์ จากระดับ 0.9722 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2558 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2527 ดอลลาร์แคนาดา
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.016% เมื่อคืนนี้
สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้น หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า ในการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ ECB จะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งในเดือนก.ค.และก.ย.เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
นายฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศสเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ค.และก.ย.
ทางด้านนางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB กล่าวว่า ECB มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะมีค่าเป็นบวกในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3 จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ -0.50%
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ค. ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนก.ย. หลังจากที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้น 8.2% ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่ขยายตัว 8.3%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ