สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.54% แตะที่ระดับ 104.5050
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.29 เยน จากระดับ 135.44 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9572 ฟรังก์ จากระดับ 0.9563 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2871 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2879 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0525 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0586 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2183 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2277 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6913 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6923 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงสู่ระดับ 98.7 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 100.0 จากระดับ 103.2 ในเดือนพ.ค. โดยผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันร่วงลงสู่ระดับ 147.1 ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าดิ่งลงสู่ระดับ 66.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2556
การที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 80 บ่งชี้ถึงการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยในช่วงสิ้นปี
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2565 ของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย ส่วนในการประมาณการครั้งที่ 1 นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า GDP หดตัว 1.4% และในการประมาณการครั้งที่ 2 ระบุว่า GDP หดตัว 1.5%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่โปรตุเกสในสัปดาห์นี้