ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทะลุระดับ 107 ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 20 ปี โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ ดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 20 ปีเทียบยูโร โดยยูโรร่วงลงต่ำกว่า 1.02 ดอลลาร์ในวันนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2545 ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน ท่ามกลางราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งขึ้น
ณ เวลา 19.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์บวก 0.52% สู่ระดับ 107.09 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2545 ขณะที่ยูโรดิ่งลง 1.37% สู่ระดับ 137.56 เยน และร่วงลง 0.9% สู่ระดับ 1.017 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์อ่อนค่า 0.52% สู่ระดับ 135.15 เยน
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นกัน
ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.1% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.0%
ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 2 รุนแรงกว่าไตรมาส 1 ซึ่งหดตัว 1.6% และแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันพรุ่งนี้
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการสกัดเงินเฟ้อ แม้การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจะชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ก็จะไม่สร้างความเสี่ยงที่รุนแรง
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เรามีเพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็คือการลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยง แต่ผมก็มองว่านี่ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ โดยความผิดพลาดมากกว่าที่อาจเกิดขึ้นก็คือความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา" นายพาวเวลกล่าว
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 14-15 มิ.ย.ในวันนี้ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าระดับ 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.6%