ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดแตะระดับ 1.000 เทียบยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน
ณ เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.57% สู่ระดับ 1.000 เทียบยูโร ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.8% สู่ระดับ 108.82
นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่กังวลว่ายูโรโซนจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นหลังราคาน้ำมันทะยานขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดจากการที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน
ทั้งนี้ ยุโรปกำลังเผชิญวิกฤตพลังงาน ขณะที่รัสเซียเริ่มยุติการส่งก๊าซธรรมชาติผ่านทางท่อส่ง Nord Stream 1
บริษัท Nord Stream AG ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการท่อส่ง Nord Stream 1 ประกาศว่า ทางบริษัทได้ปิดท่อส่งดังกล่าว ซึ่งเป็นท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมายังเยอรมนีผ่านทางทะเลบอลติก เพื่อทำการซ่อมบำรุงจนถึงวันที่ 21 ก.ค.
อย่างไรก็ดี มีความวิตกกันว่ารัสเซียจะยังคงตัดการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป แม้ Nord Stream 1 เสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงในวันที่ 21 ก.ค.
ทางด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะยิ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูโรโซน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนมองว่าตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่พุ่งขึ้นเกินคาด จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 1% ในเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการแข็งค่าของดอลลาร์