ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (22 ก.ค.) โดยดอลลาร์ถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.17% แตะที่ระดับ 106.7300
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 136.20 เยน จากระดับ 137.65 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9640 ฟรังก์ จากระดับ 0.9685 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2921 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2893 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0198, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1980 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1952 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6912 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6903 ดอลลาร์สหรัฐ
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐกดดันดอลลาร์ โดยเอสแอนด์พี โกลบอลรายงานในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.5 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 26 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมิ.ย.
ดัชนี PMI อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว โดยเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2563 โดยถูกกดดันจากภาวะหดตัวในภาคบริการ ขณะที่ภาคการผลิตปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 52.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 24 เดือน จากระดับ 52.7 ในเดือนมิ.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 47.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 26 เดือน จากระดับ 52.7 ในเดือนมิ.ย.