ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (27 ก.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.7% แตะที่ระดับ 106.4420
ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 136.48 เยน จากระดับ 136.68 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9593 ฟรังก์ จากระดับ 0.9629 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2834 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2896 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0198 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0126 ดอลลาร์, เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2166 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2029 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7000 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6933 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาดเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อซึ่งอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีมติเป็นเอกฉันท์ 12-0 ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมวันพุธ (27 ก.ค.) ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการดำเนินการที่เข้มงวดที่สุดของเฟด นับตั้งแต่ที่เฟดกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นเครื่องมือสำคัญด้านนโยบายการเงินในช่วงทศวรรษ 1990 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 2.25-2.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2561