ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดอลลาร์พุ่งขึ้นอย่างมากในวันศุกร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันพุธนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.17% แตะที่ระดับ 106.4360
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.86 เยน จากระดับ 135.06 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9561 ฟรังก์ จากระดับ 0.9618 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2863 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2935 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0190 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0178 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2072 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2067 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6980 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6912 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนก.ค.ในวันพุธนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI เดือนก.ค.จะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากที่พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
อย่างไรก็ดี คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยดีดตัวขึ้นจากระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.