ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (9 ส.ค.) หลังจากมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอาจชะลอตัวลงในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.06% แตะที่ระดับ 106.3750
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0208 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0190 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2070 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2072 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6956 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6980 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9540 ฟรังก์ จากระดับ 0.9561 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 135.17 เยน จากระดับ 134.86 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2891 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2863 ดอลลาร์แคนาดา
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลข CPI เดือนก.ค.จะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ได้ดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 8.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือนมิ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 6.1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยดีดตัวขึ้นจากระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี CPI เดือนก.ค.จะเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต่อจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 67.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 89.9 ในเดือนก.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 89.5 หลังจากแตะระดับ 89.5 ในเดือนมิ.ย.