ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (2 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวลงในเดือนส.ค. ซึ่งลดแรงกดดันที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.15% แตะที่ระดับ 108.5320
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 140.12 เยน จากระดับ 140.20 เยน, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9803 ฟรังก์ จากระดับ 0.9822 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3124 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3165 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9968 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9947 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1513 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1539 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.6816 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6784 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 526,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ค.
ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในการประชุมที่แจ็กสันโฮลนั้น นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุว่า ภาวะตลาดแรงงานต้องมีสัญญาณที่อ่อนแอลง จึงจะทำให้เงินเฟ้อปรับลดลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%