ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของยูโรและเยน
ณ เวลา 23.17 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 1.02% สู่ระดับ 142.62 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.55% สู่ระดับ 143.24 เยน และแข็งค่า 0.48% สู่ระดับ 1.004 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.64% สู่ระดับ 109.00
ทั้งนี้ ยูโรได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยระบุว่า "อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงเกินไป และมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าเป้าหมายของ ECB เป็นระยะเวลาหนึ่ง"
ส่วนเยนแข็งค่าในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการอ่อนค่าของเยน
นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวในวันนี้ว่า สกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ไม่เป็นผลดีต่อบริษัทญี่ปุ่น
ถ้อยแถลงของนายคุโรดะมีขึ้นหลังประชุมกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลังจากเยนทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีเทียบกับดอลลาร์ก่อนหน้านี้
ตลาดจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันที่ 13 ก.ย. โดยข้อมูลดังกล่าวจะเป็นจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายในการบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 14% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%