ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (23 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า จะเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 1.65% แตะที่ระดับ 113.1890
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 143.35 เยน จากระดับ 142.41 เยน, ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9828 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9787 ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3604 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3492 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9674 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9833 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0847 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1251 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6517 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6640 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% เมื่อวันพุธ (21 ก.ย.) เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในปีนี้ และส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ดอลลาร์/เยนกลับมาแข็งค่าในวันศุกร์ แม้รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราในวันพฤหัสบดีเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีเพื่อพยุงค่าเงินเยนที่ทรุดตัวลง
ส่วนเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 37 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ หลังจากที่รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ และมาตรการเยียวยาภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน