ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้นกว่า 1% ทะลุระดับ 112 ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมเดือนพ.ย.
ณ เวลา 23.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ บวก 1.03% สู่ระดับ 112.22 ขณะที่ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.24% สู่ระดับ 144.97 เยน ส่วนยูโรร่วงลง 0.63% สู่ระดับ 142.01 เยน และอ่อนค่า 0.86% สู่ระดับ 0.980 ดอลลาร์
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพ.ย. ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดยังคงหนุนการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 29.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้, รายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ย.ในวันที่ 12 ต.ค. และตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 13 ต.ค. เพื่อหาสิ่งบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า เฟดยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากในความพยายามที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นายแคชแครีกล่าวว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้
"ผมยังไม่พร้อมที่จะพูดว่าเราจะผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ชะลอตัวลงแล้ว ซึ่งขณะนี้แทบไม่มีหลักฐานแสดงว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว" นายแคชแครีกล่าว
ขณะเดียวกัน นายแคชแครีระบุว่า เขาเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่การที่เฟดจะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพียงเพื่อจะช่วยเหลือตลาดนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยง่าย