ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (12 ต.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สูงเกินคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่การเปิดเผยรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมาของเฟดบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดเห็นพ้องกันที่จะยังคงดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไป
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.09% แตะที่ระดับ 113.3200
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 146.88 เยน จากระดับ 145.85 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9982 ฟรังก์ จากระดับ 0.9976 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3824 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3812 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9699 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9712 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.1092 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1025 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าแตะที่ระดับ 0.6275 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6267 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.4% จากระดับ 8.7% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 7.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.3% จากระดับ 7.2% ในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุน หลังการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนก.ย.ของเฟดบ่งชี้ว่า กรรมการเฟดแสดงความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ระดับสูง และหลายรายวิตกว่าเฟดดำเนินการน้อยเกินไปในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยในการประชุมเดือนก.ย. เฟดลงมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันเพื่อพยายามที่จะลดเงินเฟ้อลงจากระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
บรรดานักลงทุนจะรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ (13 ต.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด