ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่า ขีปนาวุธซึ่งผลิตโดยรัสเซียได้ถูกยิงตกในดินแดนของโปแลนด์ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้ความตึงเครียดของสงครามในยูเครนทวีความรุนแรงมากขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.12% แตะที่ 106.63
ดอลลาร์แข็งค่า 0.12% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 139.47 เยน และแข็งค่า 0.19% เมื่อเทียบกับเงินหยวนที่ระดับ 7.0544 หยวนในตลาดต่างประเทศ
ส่วนสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงและมีความอ่อนไหว เช่นดอลลาร์ออสเตรเลียและเงินปอนด์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากมีรายงานว่าบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมการประชุม G20 ที่ประเทศอินโดนีเซียเตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐจะเป็นผู้นำในการประชุม ร่วมกับผู้นำจากเยอรมนี แคนาดา เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น อิตาลี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร หลังจากเกิดเหตุขีปนาวุธของรัสเซียถูกยิงตกในโปแลนด์
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว รัฐบาลโปแลนด์กำลังประเมินว่าควรจะประกาศใช้มาตรการข้อที่ 4 ตามกฎของนาโตหรือไม่ โดยมาตรการข้อที่ 4 ระบุว่า ประเทศสมาชิกนาโตสามารถยื่นเรื่องที่เป็นข้อกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความมั่นคงของประเทศสมาชิก เพื่อนำไปสู่การหารือกันภายในสภานาโต
ทางด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธตกในหมู่บ้านพาร์เซโวดาวซึ่งตั้งอยู่ในเมืองฮรูบีซอฟ (Hrubieszow) ใกล้กับชายแดนโปแลนด์-ยูเครน พร้อมกับยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีในพื้นที่ใกล้ชายแดนยูเครน-โปแลนด์