เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (16 พ.ย.) หลังมีรายงานว่าตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปี ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.12% แตะที่ 106.2810
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1913 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1873 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.0394 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0365 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 139.34 เยน จากระดับ 139.13 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9441 ฟรังก์ จากระดับ 0.9424 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3329 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3285 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4822 โครนา จากระดับ 10.4530 โครนา
เงินปอนด์พุ่งขึ้น หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อของอังกฤษ พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีที่ 11.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากราคาอาหาร การขนส่ง และพลังงานยังคงกดดันภาคครัวเรือนและธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยแผนงบประมาณของรัฐบาลอังกฤษในวันนี้ ซึ่งคาดว่านายเจเรมี ฮันท์ รมว.คลังจะประกาศปรับขึ้นภาษีและปรับลดการใช้จ่ายเพื่อควบคุมการขยายตัวของราคา
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในช่วงแรก เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินปลอดภัยหลังปรากฎข่าวการยิงขีปนาวุธตกใส่ชายแดนโปแลนด์ แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเวลาต่อมา นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธซึ่งถูกยิงตกในโปแลนด์นั้น จะเป็นขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่ยิงสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย และทำให้ขีปนาวุธพลาดตกในดินแดนของโปแลนด์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% หลังจากทรงตัวในเดือนก.ย.
สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 5 จุด สู่ระดับ 33 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 36