ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน
ณ เวลา 23.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.07% สู่ระดับ 106.62 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.21% สู่ระดับ 139.88 เยน และปรับตัวลง 0.02% สู่ระดับ 1.036 เทียบยูโร
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 5.9% สู่ระดับ 4.43 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2554 และเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน
เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 28.4% ในเดือนต.ค.
ยอดขายบ้านมือสองได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้านและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
ถึงแม้ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันนี้ แต่มีแนวโน้มพุ่งขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบ 1 เดือน ขานรับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งกล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้ยังไม่ได้อยู่ในกรอบที่ถือว่ามีการคุมเข้มมากเพียงพอ
"แม้ว่าเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75-4.00% ในปีนี้ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับที่เฟดมองว่ามีการคุมเข้มมากพอที่จะฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับคุมเข้มอย่างมีประสิทธิภาพคือ 5-7%" นายบูลลาร์ดกล่าว
ทางด้านนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ แสดงความเห็นว่า เฟดอาจจะต้องทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงเพื่อให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงมีความตึงตัว
ตลาดจับตารายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันที่ 23 พ.ย. เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด