ริงกิตแข็งค่า 0.6% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือนเทียบดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับการแต่งตั้งนายอันวาร์ อิบราฮิม เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของมาเลเซีย ซึ่งช่วยยุติภาวะอึมครึมทางการเมืองของมาเลเซีย
อย่างไรก็ดี ดัชนี KLCI ตลาดหุ้นกัวลาลัมเปอร์ร่วงลง 1.1% จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน หลังตลาดพุ่งขึ้นกว่า 4% วานนี้
นอกจากนี้ การซื้อขายในตลาดหุ้นยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของมาเลเซียที่พุ่งขึ้น 4% ในเดือนต.ค. โดยสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ก่อนหน้านี้ มาเลเซียเผชิญภาวะ "สภาแขวน" เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เนื่องจากไม่มีพรรคการเมืองใดมีคะแนนเสียงมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาล ทำให้หลายฝ่ายวิตกว่ารัฐบาลผสมที่เกิดขึ้นใหม่จะขาดเสถียรภาพ และเกิดความไม่แน่นอนทางการเมือง
อย่างไรก็ดี นายอันวาร์ประกาศในวันนี้ว่า เขาสามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 148 เสียงแล้ว ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติที่เขาจัดตั้งขึ้นครองเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสภา
นายอันวาร์กล่าวว่า ขณะนี้เขามีเสียงส.ส.ในมือจำนวน 148 เสียง ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคปากาตัน ฮาราปัน (PH) ของเขาจำนวน 82 เสียง, พรรคบาริซาน นาซิออนนาล (BN) 30 เสียง, พรรคกาบังกัน ปาร์ตี ซาราวัค (GPS) 23 เสียง และพรรคกาบังกัน รักยัต ซาบาห์ (GRS) 6 เสียง รวมทั้งอีก 7 เสียงจากพรรคขนาดเล็กอีก 4 พรรค
คะแนนเสียงสนับสนุนที่นายอันวาร์ได้รับถือว่ามากกว่า 112 เสียงที่จำเป็นสำหรับการครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรที่มีสมาชิกทั้งหมด 222 คน
"เรามีเสียงส่วนใหญ่ 2 ใน 3 ของสภาแล้ว ซึ่งจะสร้างเสถียรภาพต่อการเมืองในมาเลเซีย และทำให้เราสามารถมุ่งความสนใจไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ" นายอันวาร์กล่าว
นายอันวาร์กล่าวว่า เขาจะเปิดสมัยประชุมสภาในวันที่ 19 ธ.ค. โดยวาระแรกในการประชุมคือการลงมติไว้วางใจรัฐบาลเพื่อพิสูจน์จำนวนเสียงสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎรที่สนับสนุนรัฐบาล
"เราได้กำหนดวาระการประชุมในวันที่ 19 ธ.ค.แล้ว โดยวาระแรกของการประชุม หลังจากที่ผมสาบานตนในสภา คือการลงมติไว้วางใจรัฐบาล ซึ่งผมไม่มีความกังวลในเรื่องนี้" นายอันวาร์กล่าวในการแถลงข่าว
นักวิเคราะห์ระบุว่า ประสบการณ์ของนายอันวาร์ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง จะช่วยให้เขาสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมาเลเซีย ทำให้มีการขยายตัวและมีเสถียรภาพ ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อ และแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก
นอกจากนี้ การที่นายอันวาร์เป็นที่รู้จัก และได้รับการเคารพในเวทีระหว่างประเทศ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างประเทศ