เงินหยวนของจีนแข็งค่าทะลุระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ (5 ธ.ค.) และแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ย. ขานรับจีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะดึงดูดเม็ดเงินใหม่ ๆ จากต่างประเทศเข้าสู่จีน
นอกจากนี้ เงินหยวนยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งได้ส่งผลถ่วงดัชนีดอลลาร์ลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 5 เดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เงินหยวนในประเทศพุ่งขึ้นราว 1.4% แตะระดับสูงถึง 6.9507 ในช่วงเช้าวันนี้ (5 ธ.ค.) ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย. และแข็งค่าตามอัตราค่ากลางเงินหยวนของธนาคารกลางจีน
ส่วนในตลาดต่างประเทศ หยวนแข็งค่า 1.1% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ 6.9438 หลังพุ่งขึ้นรายสัปดาห์สูงเป็นประวัติการณ์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หยวนพุ่งขึ้นราว 1.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2548 ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะยังคงผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ต่อไป
ดัชนี CSI300 ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นเกือบ 10% ในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยตลาดหุ้นจีนได้รับเงินทุนสุทธิไหลเข้าเกิน 6 หมื่นล้านหยวน (8.55 พันล้านดอลลาร์) ผ่านโครงการ Stock Connect
เมย์แบงก์ระบุด้วยว่า การแข็งค่าของเงินหยวนเป็นผลมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ด้วย โดยดัชนีดอลลาร์ร่วงลงเกือบ 9% แล้วจากระดับสูงสุดที่เข้าทดสอบเมื่อวันที่ 28 ก.ย.
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางรายเตือนว่า แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนยังไม่แน่นอน และเงินหยวนจะยังคงปรับตัวผันผวน
เมย์แบงก์ระบุในรายงานถึงลูกค้าว่า แนวโน้มการกลับไปคุมเข้มนโยบายโควิด หรือสถานการณ์ติดเชื้อที่ย่ำแย่ลง อาจเป็นโอกาสให้นักลงทุนเทขายเงินหยวนออกมาอีก