ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (6 ธ.ค.) โดยตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.27% แตะที่ระดับ 105.5760
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.90 เยน จากระดับ 136.64 เยน, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3657 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3589 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4210 โครนา จากระดับ 10.4005 โครนา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9419 ฟรังก์ จากระดับ 0.9426 ฟรังก์
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0467 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0495 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2142 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2176 ดอลลาร์
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทะลุ 5.0% ในกลางปีหน้า หลังการเปิดเผยรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แม้เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ถึง 4 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดในช่วงที่ผ่านมายังคงไม่สามารถสกัดความร้อนแรงของตลาดแรงงาน ทำให้มีการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้าเพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงและสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่กรอบ 5.00-5.25% ในเดือนพ.ค. 2566 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ที่ระดับ 4.75-5.00%
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ โดยขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 91% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้