หลังจากการล้มละลายของเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) มากว่า 1 เดือนนั้น ความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับไบแนนซ์ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด
บีเอ็นบี (BNB) ซึ่งเป็นโทเคนแรก (native token) ของไบแนนซ์ ร่วง 15% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการดิ่งลงกว่า 6% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาด้วย
คอยน์มาร์เก็ตแคป (CoinMarketCap) ระบุว่า BNB ซึ่งถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2560 นั้น นับเป็นคริปโทฯ ที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับ 5 ของโลก โดยมีมูลค่าตลาดราว 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นรองจากบิตคอยน์, อีเธอเรียม, เทเธอร์ (Tether) และยูเอสดี คอยน์
สำหรับประเด็นล่าสุดที่สร้างความวิตกเกี่ยวกับไบแนนซ์ก็คือกระบวนการล้มละลายของ FTX โดยไบแนนซ์ซึ่งเป็นนักลงทุนภายนอกรายแรกของ FTX ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ใน FTX เมื่อปีที่แล้วและได้รับเงินราว 2.1 พันล้านดอลลาร์
ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ Squawk Box ของสถานีโทรทัศน์ CNBC เมื่อวันพฤหัสบดี (15 ธ.ค.) นายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอของไบแนนซ์ได้ปฏิเสธเกี่ยวกับความวิตกที่ว่า ไบแนนซ์อาจต้องคืนเงินก้อนดังกล่าว ขณะที่ FTX กำลังเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย และทรัสตีจะเรียกคืนเงินฉ้อโกงใด ๆ ที่ FTX โอนให้กับธุรกิจต่าง ๆ และนักลงทุนภายนอก
"เรามีสถานะการเงินที่โอเค" นายจ้าวกล่าว หลังจากที่เบคกี้ ควิกของ CNBC ถามเขาว่า ไบแนนซ์จะสามารถรับมือกับความต้องการเงิน 2.1 พันล้านดอลลาร์นั้นหรือไม่
นายจ้าวระบุเมื่อวันพุธ (14 ธ.ค.) ว่า นักลงทุนได้กลับมาฝากคริปโทฯ และสถานการณ์ของไบแนนซ์เริ่มมีเสถียรภาพแล้ว เพียงหนึ่งวันหลังจากบริษัทเจอกระแสการแห่ถอนคริปโทฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากจนต้องระงับการทำธุรกรรมบางส่วนเป็นการชั่วคราว