ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มคลายความร้อนแรง และอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.59% แตะที่ 103.8610
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 132.96 เยน จากระดับ 134.38 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9220 ฟรังก์ จากระดับ 0.9287 ฟรังก์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3539 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3599 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4446 โครนา จากระดับ 10.4682 โครนา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0676 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0615 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2068 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2027 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 41,000 ราย สู่ระดับ 1.710 ล้านราย
นักวิเคราะห์มองว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอาจทำให้คณะกรรมการเฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากที่เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันหลายครั้งเพื่อบรรเทาความร้อนแรงของตลาดแรงงานและฉุดเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ.2566 ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีหน้า หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ในปีนี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.2566 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 27%