ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวในคืนนี้
ณ เวลา 19.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.51% สู่ระดับ 105.58 ขณะที่ดอลลาร์ดีดตัว 0.295% สู่ระดับ 1.049 เทียบยูโร และแข็งค่า 0.84% สู่ระดับ 134.52 เยน
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 263,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%
หากตัวเลขจ้างงานออกมาตามที่ตลาดคาดไว้ ก็จะทำให้สหรัฐมีการจ้างงานเกือบ 5 ล้านตำแหน่งในปี 2565 ซึ่งจะสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากระดับ 6.7 ล้านตำแหน่งในปี 2564 หลังจากทรุดตัวลงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 9.3 ล้านตำแหน่งในปี 2563 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
"เฟดต้องการเห็นตัวเลขจ้างงานเฉลี่ยต่อเดือนราว 100,000 ตำแหน่ง หรือต่ำกว่านั้น ซึ่งจะสอดคล้องกับสภาพตลาดแรงงานที่ชะลอตัว" นายนิค บังเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Indeed Hiring Lab กล่าว
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานที่ต่ำกว่าคาด และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่สูงกว่าคาดวานนี้ บ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย
นอกจากนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 24,000 ราย สู่ระดับ 1.694 ล้านราย
ขณะเดียวกัน ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 153,000 ตำแหน่ง จากระดับ 127,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
ภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่ภาคการผลิตมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการประชุมนโยบายการเงินนัดแรกของเฟดในปีนี้ หลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งวานนี้