ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (13 ม.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อชะลอตัวลงในเดือนธ.ค. ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.08% แตะที่ระดับ 102.2110
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 127.93 เยน จากระดับ 129.34 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9270 ฟรังก์ จากระดับ 0.9289 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.3850 โครนา จากระดับ 10.4131 โครนา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3390 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3359 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0828 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0851 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.2228 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2218 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว ขณะที่นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายกล่าวสนับสนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากเงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลง
ขณะเดียวกันดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของเยน หลังจากมีรายงานว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแผนทบทวนผลกระทบจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุมนโยบายสัปดาห์หน้า