ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.17% สู่ระดับ 102.19 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.26% สู่ระดับ 1.082 เทียบยูโร และร่วงลง 0.22% สู่ระดับ 128.59 เยน
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.1% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลงเพียง 0.8% หลังจากลดลง 1.0% ในเดือนพ.ย.
ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ลดลง รวมทั้งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันเบนซิน ซึ่งกระทบต่อยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย.
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับตัวลง 0.6% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค
การผลิตของภาคโรงงานดิ่งลง 1.3% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.3% หลังจากลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย.
ส่วนการผลิตในภาคเหมืองแร่ลดลง 0.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 3.8%
นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ได้บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด