ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (19 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.32% แตะที่ 102.0570
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 128.47 เยน จากระดับ 128.75 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9152 ฟรังก์ จากระดับ 0.9163 ฟรังก์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3454 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3490 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3117 โครนา จากระดับ 10.3303 โครนา
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0831 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0795 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2393 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2342 ดอลลาร์
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -8.9 ในเดือนม.ค. จากระดับ -13.7 ในเดือนธ.ค. แต่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกยังคงอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.1% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวลงเพียง 0.8% หลังจากลดลง 1.0% ในเดือนพ.ย. โดยยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากยอดขายรถยนต์ที่ลดลง รวมทั้งการปรับตัวลงของราคาน้ำมันเบนซิน ซึ่งกระทบต่อยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน
นอกจากนี้ รายงานของเฟดระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.7% ในเดือนธ.ค. หลังจากปรับตัวลง 0.6% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค