ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (2 ก.พ.) โดยดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลงภายหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงมติการประชุมเมื่อวันพุธ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.56% แตะที่ระดับ 101.7540
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9137 ฟรังก์ จากระดับ 0.9093 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3329 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3297 ดอลลาร์แคนาดา
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 0.3746 โครนา จากระดับ 10.3522 โครนา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 128.65 เยน จากระดับ 128.81 เยน
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.0908 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0983 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2231 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2376 ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากที่อ่อนแรงลงในการซื้อขายเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภายหลังจากคณะกรรมการเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแสดงความเห็นในการแถลงข่าวหลังการประชุมว่า ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง (Disinflationary) ในสหรัฐเริ่มปรากฏให้เห็นแล้วในขณะนี้ ซึ่งนักลงทุนมองว่าเป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.0% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด แต่ BoE ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มผ่านระดับสูงสุดแล้ว และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด นอกจากนี้ ECB ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ และระบุอย่างชัดเจนว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.2% หลังจากลดลง 1.9% ในเดือนพ.ย.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 183,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200,000 ราย
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 187,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% ในเดือนม.ค. จากระดับ 3.5% ในเดือนธ.ค.