ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า นลท.ขายทำกำไรหลังพุ่งแรงระหว่างวัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 17, 2023 07:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (16 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด หลังจากดอลลาร์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในระหว่างวัน ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ 103.8780

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 133.85 เยน จากระดับ 134.15 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4317 โครนา จากระดับ 10.4396 โครนา

แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9244 ฟรังก์ จากระดับ 0.9243 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3429 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3399 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0687 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0683 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2010 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2023 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายตลาด หลังจากที่แข็งค่าขึ้นในระหว่างวัน ภายหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 6.0% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.5% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 194,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 200,000 ราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานอยู่ต่ำกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐ

นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนานกว่าที่คาดไว้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.5% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงเกินคาด และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค., พ.ค. และมิ.ย. สู่ระดับสูงสุดที่ 5.25-5.50% และจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ที่ระดับดังกล่าวก่อนที่จะปรับลดลง 0.25% ในเดือนธ.ค.ปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ