ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกต่อวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐและยุโรป
ณ เวลา 22.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.65% สู่ระดับ 103.20 ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.78% สู่ระดับ 1.075 เทียบยูโร และร่วงลง 0.35% สู่ระดับ 130.35 เยน
ดอยซ์แบงก์ได้ตกเป็นเป้าสนใจของนักลงทุนทั่วโลกในวันนี้ หลังจากที่ราคาหุ้นของทางธนาคารได้ดิ่งลงทั้งในตลาดยุโรปและสหรัฐ หลังจาก Credit Default Swap (CDS) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของดอยช์แบงก์พุ่งสูงสุดในรอบ 4 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของทางธนาคาร
ทั้งนี้ CDS ของดอยซ์แบงก์พุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.00% ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2562 จากระดับ 1.73% วานนี้
ดอยซ์แบงก์เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี โดยมีสินทรัพย์ทั้งหมดราว 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ และมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการราว 8.8 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ล่าสุดธนาคารเปิดเผยว่ามีกำไร 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565
นอกจากนี้ ดอยซ์แบงก์ถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม Systemically Important Financial Institution (SIFI) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ หรืออยู่ในกลุ่ม "Too big to fail" ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ใหญ่เกินกว่าจะล้ม โดยภาครัฐจะออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อป้องกันมิให้วิกฤตธนาคารในกลุ่มดังกล่าวลุกลามไปทั่วระบบการเงิน
"ดอยซ์แบงก์ได้ตกเป็นเป้าสนใจเช่นเดียวกับเครดิต สวิส แม้ผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างมาแล้วหลายครั้ง และมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเพื่อให้ธนาคารกลับมามีสถานะที่มั่นคง แต่ความพยายามเหล่านี้ก็ไม่บรรลุผลแต่อย่างใด" นายสจวร์ต โคล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์มหภาคของ Equiti Capital กล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนแห่เทขายตราสารทางการเงินที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Additional Tier 1) หรือ AT1 ของดอยซ์แบงก์เช่นกัน หลังจากที่รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ประกาศตัดมูลค่า AT1 ของเครดิต สวิส ลงเหลือศูนย์ ซึ่งสร้างความไม่มั่นใจต่อนักลงทุนในการถือครอง AT1 ของดอยซ์แบงก์ หากธนาคารเกิดการล้มละลาย