ดอลลาร์อ่อนค่าในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร ขณะที่ทางการสหรัฐและยุโรปออกมาตรการสร้างความมั่นใจต่อตลาด
ณ เวลา 20.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.07% สู่ระดับ 103.05 ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง 0.16% สู่ระดับ 1.078 เทียบยูโร และแข็งค่า 0.70% สู่ระดับ 131.62 เยน
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 60% ในการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพ.ค. และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งเร็วกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 66.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 33.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 22 มี.ค. ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมาย 2%
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เฟดส่งสัญญาณไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยเฟดจะเริ่มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)