ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (11 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.36% แตะที่ 102.2017
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9033 ฟรังก์ จากระดับ 0.9097 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3467 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3508 ดอลลาร์แคนาดา
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4551 โครนา จากระดับ 10.5313 โครนา แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 133.7700 เยน จากระดับ 133.5860 เยน
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0908 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0859 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2418 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2381 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนก.พ. แต่คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะดีดตัวขึ้น 5.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.5% ในเดือนก.พ.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 21-22 มี.ค.ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้เช่นกัน โดยเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมดังกล่าว พร้อมกับส่งสัญญาณใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย