ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า รับแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (14 เม.ย.) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.59% แตะที่ 101.6179

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ โดยแตะ 133.7870 เยน จากระดับ 132.7800 เยนในวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.), แข็งค่าแตะ 0.8939 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.8882 ฟรังก์สวิส, แข็งค่าแตะ 1.3360 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3339 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าแตะ 10.3245 โครนาสวีเดน จากระดับ 10.2654 โครนาสวีเดน

ส่วนยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.0999 ดอลลาร์ จาก 1.1046 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2414 ดอลลาร์ จาก 1.2523 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี

นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กรรมการเฟดเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า เฟดจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นแตะ 4.0% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีอยู่ที่ 3.4%

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 63.5 ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจาก 62.0 ในเดือนมี.ค. ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอาจทรงตัวที่ระดับเดิม

เฟดรายงานข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 0.4% เดือนมี.ค. และผลผลิตอุตสาหกรรมลดลง 0.5% ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบเป็นรายเดือน