เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (19 เม.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า หลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.23% แตะที่ระดับ 101.9695
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2438 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2429 ดอลลาร์ในวันอังคาร (18 เม.ย.) ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0952 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0973 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.7260 เยน จากระดับ 134.0580 เยนในวันอังคาร, แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8976 ฟรังก์ จากระดับ 0.8970 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3462 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3392 ดอลลาร์แคนาดา
เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น หลังจากนักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. หลังอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่า 10% และอยู่ในระดับสูงสุดของยุโรปตะวันตก
ผลสำรวจล่าสุดพบว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 82%
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 10.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.8% จากระดับ 10.4% ในเดือนก.พ.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมี.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% จากระดับ 1.1% ในเดือนก.พ.
ส่วนดอลลาร์ปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 88.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 11.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%