ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (24 เม.ย.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.46% แตะที่ระดับ 101.3522
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1045 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0976 ดอลลาร์ในวันศุกร์ (21 เม.ย.) ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2482 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2430 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8880 ฟรังก์ จากระดับ 0.8931 ฟรังก์ในวันศุกร์, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3539 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3548 ดอลลาร์แคนาดา, อ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.2489 โครนา จากระดับ 10.3126 โครนา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 134.2900 เยน จากระดับ 134.2030 เยน
ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีชี้วัดกิจกรรมในภาคการผลิตของรัฐเท็กซัสปรับตัวลงสู่ระดับ -23.4 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2565 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -11.0 จากระดับ -15.7 ในเดือนมี.ค.
ดัชนียังคงมีค่าเป็นลบ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในเท็กซัส ขณะที่หดตัวเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากการลดลงของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงขาดความเชื่อมั่นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยราคาบ้านเดือนก.พ.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค., ในวันพุธจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค., วันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 (ประมาณการเบื้องต้น) ส่วนวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน