ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (25 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตในภาคธนาคารของสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.51% แตะที่ระดับ 101.8678
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0971 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1045 ในวันจันทร์ (24 เม.ย.) ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2406 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2482 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 133.6010 เยน จากระดับ 134.29 เยนในวันจันทร์ แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8920 ฟรังก์ จากระดับ 0.8880 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3643 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3539 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.3205 โครนาสวีเดน จากระดับ 10.2489 โครนาสวีเดน
ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ เปิดเผยว่าลูกค้าได้แห่ถอนเงินฝากมากกว่าคาดในไตรมาส 1/2566 โดยยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ระดับ 1.045 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.450 แสนล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 9.6% สู่ระดับ 683,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน จากระดับ 623,000 ยูนิตในเดือนก.พ.
ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากร่วงลง 0.2% ในเดือนม.ค.
ทางด้าน Conference Board ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 101.3 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 104.0 ในเดือนมี.ค. นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2566 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. รวมทั้งจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้