ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร เก็งเฟดขึ้นดบ.-ข้อมูลศก.ยูโรโซนอ่อนแอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday April 29, 2023 08:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (28 เม.ย.) ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยูโรโซนในไตรมาสแรกของปีนี้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.16% แตะที่ระดับ 101.6595

ยูโรลดลงแตะ 1.1017 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จากระดับ 1.1025 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2563 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2491 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี

ส่วนดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 136.2430 เยนในวันศุกร์ จากระดับ 133.95 เยนในวันพฤหัสบดี แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะ 0.8938 ฟรังก์สวิส จาก 0.8940 ฟรังก์สวิส

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงแตะ 1.3537 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3602 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าแตะ 10.2638 โครนาสวีเดน จาก 10.2951 โครนาสวีเดน

สำนักงานสถิติของยูโรโซน (Eurostat) เปิดเผยในวันศุกร์ (28 เม.ย.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของยูโรโซนขยายตัว 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ แต่ต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 0.2%

ส่วน GDP ของเยอรมนีไม่เปลี่ยนแปลงในไตรมาสแรก ขณะที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.1%

เคนนี ฟิสเชอร์ นักวิเคราะห์ตลาดของโออันดาเปิดเผยว่า ข้อมูล GDP ที่น่าผิดหวังในยูโรโซนและเยอรมนีถ่วงยูโรลงในวันศุกร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 63.5 ในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 62.0 ในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้าต่างดีดตัวขึ้น

ทั้งนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.6% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า สูงกว่าระดับ 3.6% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว

สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 3.0% สูงกว่าระดับ 2.9% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนหลังนักลงทุนยังคงเทน้ำหนักให้กับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. หลังการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ โดยดัชนีดังกล่าวเป็นข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญตัวสุดท้ายก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และให้น้ำหนักเพียง 14.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากระดับ 5.1% ในเดือนก.พ.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. และชะลอตัวจากระดับ 0.3% ในเดือนก.พ.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5% แต่ชะลอตัวจากระดับ 4.7% ในเดือนก.พ.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนก.พ.

ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ