สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกัน ตลาดยังจับตาเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เข้าซื้อกิจการธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์
ณ เวลา 18.34 น.ตามเวลาไทย ยูโรอ่อนค่า 0.08% เทียบดอลลาร์ แตะที่ระดับ 1.1010 ดอลลาร์ ส่วนเงินเยนแข็งค่า 0.34% เทียบดอลลาร์ สู่ระดับ 136.77 เยน
นักลงทุนจับตาการประชุมของเฟดในวันที่ 2-3 พ.ค.นี้ โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนักเพียง 14.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเกาะติดความเคลื่อนไหวในภาคธนาคารของสหรัฐ หลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลจะเข้าควบคุมธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (FRB) และให้เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค เข้าซื้อกิจการ FRB หลังจากที่ FRB ลงทุนผิดพลาดและลูกค้าแห่ถอนเงินออกจากธนาคารจนเกิดความเสียหายต่อภาคธนาคารในระดับภูมิภาค
กรมคุ้มครองการเงินและนวัตกรรมแห่งแคลิฟอร์เนีย (DFPI) ออกแถลงการณ์ว่า เจพีมอร์แกนจะ "รับเอาเงินฝากทั้งหมด รวมถึงเงินฝากที่ไม่ได้รับความคุ้มครองทั้งหมด ตลอดจนสินทรัพย์ที่สำคัญทั้งหมด" ของ FRB
DFPI ได้เลือกให้บรรษัทรับประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เป็นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของ FRB "เงินฝากจะได้รับการคุ้มครองโดยรัฐบาลกลางผ่าน FDIC ตามวงเงินที่กำหนด"
การเข้าซื้อ FRB ครั้งนี้จะทำให้เจพีมอร์แกนซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งที่ตามปกติแล้ว ข้อจำกัดด้านกฎระเบียบของสหรัฐจะบังคับขนาดและสัดส่วนฐานเงินฝากของเจพีมอร์แกนไม่ให้ใหญ่ไปกว่านี้ นอกจากนี้ ยังขัดแย้งกับท่าทีก่อนหน้านี้ของผู้แทนจากพรรคเดโมแครตคนสำคัญและฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ได้แสดงความกังวลต่อการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมการเงินและภาคส่วนอื่น ๆ