ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (16 พ.ค.) ขานรับถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.12% แตะที่ระดับ 102.5606
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.3070 เยน จากระดับ 136.0770 เยนในวันจันทร์ (15 พ.ค.), แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8959 ฟรังก์ จากระดับ 0.8949 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.4029 โครนา จากระดับ 10.3432 โครนา แต่ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3469 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0868 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0874 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2486 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2528 ดอลลาร์
ดอลลาร์ได้รับปัจจัยบวกจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เขาคาดว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ขณะที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัวลง และเขายังมองไม่เห็นเหตุผลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ทางด้านนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ส่งสัญญาณว่า เธอสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อต่อไป
นักลงทุนจับตาผลการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งแกนนำในสภาคองเกรส ซึ่งทั้งสองฝ่ายหารือกันเป็นรอบที่ 2 เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ