ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (20 มิ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านสูงกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.01% สู่ระดับ 102.5371
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8978 ฟรังก์ จากระดับ 0.8962 ฟรังก์ ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3229 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3214 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.8024 โครนา จากระดับ 10.7285 โครนา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 141.3700 เยน จากระดับ 141.9470 เยน
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.0917 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0919 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2759 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2779 ดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.63 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.39 ล้านยูนิต จากระดับ 1.24 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย.
ส่วนการอนุญาตก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.49 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.42 ล้านยูนิต
นักลงทุนจับตานายพาวเวลซึ่งจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (21 มิ.ย.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ ในเวลาเดียวกัน เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 10 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ก่อนที่จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว