ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (3 ก.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเฟด รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในสัปดาห์นี้
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ระดับ 102.9857
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.7190 เยน จากระดับ 144.2930 เยนในวันศุกร์ (30 มิ.ย.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8964 ฟรังก์ จากระดับ 0.8951 ฟรังก์, แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3252 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3239 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.8286 โครนา จากระดับ 10.7869 โครนา
ส่วนยูโรแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0912 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0911 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2690 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2693 ดอลลาร์
ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 10.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25%
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 13-14 มิ.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.0 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.0 จากระดับ 46.9 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 8
- ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันอังคารที่ 4 ก.ค. เนื่องในวันชาติสหรัฐ *