ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า หลังเฟดเผยผลการประชุม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 27, 2023 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (26 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.49% แตะที่ 100.9027

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 139.9900 เยน จากระดับ 141.0230 เยนในวันอังคาร (25 ก.ค.) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8605 ฟรังก์ จากระดับ 0.8646 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3198 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3167 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดนที่ระดับ 10.3921 โครนา จากระดับ 10.3802 โครนา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1105 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1045 ดอลลาร์ในวันอังคาร ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2957 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2892 ดอลลาร์

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยรวม 5.25%

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตนั้น เฟดจะตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง รวมทั้งพิจารณาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลานั้น โดยเฟดจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น

ในระหว่างการแถลงข่าว นายพาวเวลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น โดยกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ว่าเราอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น และในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่เราอาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา"

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 2.5% สู่ระดับ 697,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 725,000 ยูนิต จากระดับ 715,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. โดยยอดขายบ้านใหม่ได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่อยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ปรับตัวสูงขึ้น

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือนมิ.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย. โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ