ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (31 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 101.8504
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0999 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1023 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2837 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2855 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 142.2640 เยน จากระดับ 141.1080 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8718 ฟรังก์ จากระดับ 0.8695 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3176 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3240 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.5112 โครนา จากระดับ 10.5354 โครนา
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่าสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยจะชะลอตัวในลักษณะซอฟต์แลนดิ้ง
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.5% ในไตรมาส 3/2566 ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งแรกสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 2.4%
ยูโรอ่อนค่าลง หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บิโภค ชะลอตัวลงสู่ระดับ 5.3% ในเดือนก.ค. จากระดับ 5.5% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า การชะลอตัวของเงินเฟ้ออาจทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มพิจารณายุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย., วันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ค.จาก ADP และวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ในเดือนก.ค.