ดอลลาร์ปรับตัวแคบเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.03% สู่ระดับ 102.56 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.07% สู่ระดับ 1.096 เทียบยูโร และขยับขึ้น 0.08% สู่ระดับ 143.48 เยน
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนก.ค.ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.0% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 4.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.8% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย.
นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย กล่าวว่า เฟดอาจอยู่ในจุดที่สามารถยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวัฏจักรปัจจุบันแล้ว หลังมีความคืบหน้าในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ และมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ
"หากไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจใหม่ที่สร้างความตื่นตระหนกในช่วงระหว่างนี้จนถึงกลางเดือนก.ย. ผมก็เชื่อว่าเราอาจมาถึงจุดที่เราสามารถใช้ความอดทน และคงอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ปล่อยให้นโยบายการเงินทำงานด้วยตัวมันเอง" นายฮาร์เกอร์กล่าว
อย่างไรก็ดี นายฮาร์เกอร์ระบุว่า เฟดยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้
ขณะเดียวกัน นายฮาร์เกอร์แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย โดยจะชะลอตัวเพียงเล็กน้อย หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.4% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ ขณะที่เงินเฟ้อจะค่อยๆกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และการว่างงานจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก