ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ณ เวลา 22.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.38% สู่ระดับ 103.81 ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.28% สู่ระดับ 1.083 เทียบยูโร และพุ่งขึ้น 0.59% สู่ระดับ 145.68 เยน
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 240,000 ราย
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้
เฟดจัดการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 24-26 ส.ค. ในหัวข้อ "Structural Shifts in the Global Economy"
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมดังกล่าว เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ การประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ถือเป็นการประชุมที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยผู้ว่าการธนาคารกลาง รัฐมนตรีคลัง นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน จากประเทศต่างๆทั่วโลก จะเดินทางเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ขณะที่ไฮไลท์จะอยู่ที่การกล่าวปาฐกถาของประธานเฟดเพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับนโยบายการเงิน และแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า เฟดได้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว แม้ว่านายพาวเวลไม่ได้กล่าวอย่างชัดเจนในการแถลงข่าวหลังการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.
"เราคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในวันที่ 26 ก.ค.ถือเป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายสำหรับวัฏจักรปัจจุบัน และเราคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. โดยเฟดจะสรุปในเดือนพ.ย.ว่าเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงอย่างเพียงพอจนทำให้เฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป" รายงานระบุ
นักลงทุนคาดการณ์เช่นเดียวกันว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. และในช่วงที่เหลือของปีนี้ ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567
ด้านนายพาวเวลกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่า เฟดไม่มีการกำหนดทิศทางนโยบายการเงินไว้ล่วงหน้า โดยจะทำการตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง ซึ่งจะพิจารณาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนั้น
"มีความเป็นไปได้ที่เราอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้เช่นเดียวกันที่เราอาจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา" นายพาวเวลกล่าว