ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (20 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด แต่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.03% แตะที่ระดับ 105.1252
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8969 ฟรังก์ จากระดับ 0.8982 ฟรังก์ในวันอังคาร (19 ก.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3437 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3442 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 11.0915 โครนา จากระดับ 11.1520 โครนา แต่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.9800 เยน จากระดับ 147.8450 เยน
ส่วนยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0686 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0677 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2362 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2391 ดอลลาร์
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี โดยการคงอัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
คณะกรรมการ FOMC ยังได้เปิดเผยรายงานสรุปการคาดการณ์เศรษฐกิจ (Summary Economic Projections - SEP) และการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่กรอบ 5.50%-5.75% ภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งสู่ระดับ 5.1% ภายในช่วงสิ้นปี 2567 และแตะ 3.9% ภายในช่วงสิ้นปี 2568
ส่วนการคาดการณ์เศรษฐกิจนั้น เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐสู่ระดับ 2.1% ในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.0% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่ระดับ 3.3% ภายในสิ้นปีนี้, แตะระดับ 2.5% ภายในสิ้นปี 2567 และแตะระดับ 2.2% ภายในสิ้นปี 2568 โดยเฟดคาดว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% ในปี 2569 ซึ่งช้ากว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนให้น้ำหนัก 55% ที่ BoE จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ในการประชุมครั้งนี้ จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 20% หลังจากอังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ชะลอตัวสู่ระดับ 6.7% ในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 7.0% จากระดับ 6.8% ในเดือนก.ค.